สกัดเก็งกำไร หวังป้องกันความเสี่ยงฟองสบู่
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิตกรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นไป บริษัทจะเพิ่มอัตราการวางเงินดาวน์ไม่ต่ำกว่า 10% ในทุกโครงการคอนโดเปิดใหม่ จากที่ผ่านมาไม่มีการกำหนดเงื่อนไขเงินดาวน์ เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงต่อบริษัทจากการทิ้งเงินดาวน์ หรือไม่รับโอนกรรมสิทธิ์ เพราะคอนโด ต้องใช้ระยะเวลาการก่อสร้างและส่งมอบอย่างน้อย 2-3 ปี และไม่อาจรู้ได้ว่า เมื่อถึงตอนนั้นจะมีปัจจัยลบอะไรที่เข้ามากระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาฯหรือไม่ นอกจากนี้ ยังเป็นการคัดกรองกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริงๆ และช่วยสกัดกลุ่มผู้ซื้อเก็งกำไร ขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการปรับเพิ่มเกณฑ์เงินดาวน์ของแบงก์ชาติด้วย
"เครื่องมือการสกัดการเก็งกำไรมีอยู่หลายวิธี การกำหนดเงินดาวน์ เป็นเพียงหนึ่งในหลายมาตรการเท่านั้น และถือว่าช่วยสกรีนลูกค้าที่เป็นเรียลดีมานด์จริงๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเงินดาวน์เรื่องเดียวจัดการได้ทุกอย่าง มีอีกหลายกลไกในการจัดการ เพื่อป้องกันความเสี่ยงวิกฤตฟองสบู่"
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือแอลพีเอ็น กล่าวว่า แอล.พี.เอ็น. ได้ทดลอง ปรับเพิ่มสัดส่วนเงินดาวน์ จากเดิมอยู่ที่10% เป็น 15% ของราคาขาย นำร่องโครงการแรก ลุมพินี เพลสศรีนครินทร์-หัวหมาก สเตชั่น ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การเพิ่มสัดส่วนเงินดาวน์มากขึ้น ก็เพื่อคัดกรองกลุ่มลูกค้าให้เป็นกลุ่มอยู่อาศัยจริงให้ได้มากที่สุด และลดปริมาณนักเก็งกำไรที่เน้นจองห้องชุดไปขายใบจองในอินเทอร์เน็ต แม้ว่าในความเป็นจริงจะไม่สามารถห้ามกลุ่มเก็งกำไรได้ แต่ถือเป็นการหาแนวทางที่จะทำให้ผู้เก็งกำไรจากใบจองเข้าสู่ตลาดได้ยากขึ้น
นอกจากนี้ ยังถือเป็นการทดลองกำลังซื้อของตลาดว่ารับกับสัดส่วนเงินดาวน์15% ได้หรือไม่ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวรับความเสี่ยง กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจมีนโยบายปรับลดสัดส่วนแอลทีวี (LTV) หรืออัตราส่วนการให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันที่คาดว่าจะปรับจากปัจจุบัน 90% เป็น 85% ในอนาคต ซึ่งมีผลให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้คอนโดมิเนียมได้น้อยลง